เรื่อง : ประชุม ครม.สัญจรภาคตะวันออก ที่จังหวัดจันทบุรี-ตราด

      ผู้ส่งข่าว : นาย ไชยยันต์ พงศะบุตร

      ประชาสัมพันธ์ เมื่อ : 20180207 เวลา : 07:20:00      มีผู้อ่านข่าวประชาสัมพันธ์นี้แล้ว   346   ครั้ง

      รายละเอียด : ประชุม ครม.สัญจรภาคตะวันออก ที่จังหวัดจันทบุรี-ตราด วันนี้ ผลักดันให้เป็นประตูการค้าในภูมิภาคเชื่อมโยงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี และ ผลักดันให้เป็นมหาอำนาจผลไม้โลก

โดยจุดแรกพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เดินทางไปที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านเปร็ดใน ตำบลห้วงน้ำขาว อำเภอเมือง จังหวัดตราด ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้ม โดยการเดินทางมาที่นี่เนื่องจากเป็นชุมชนต้นแบบในการบริหารจัดการน้ำ ป่าชายเลน และ การอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ

ซึ่งป่าชายเลนมีความสำคัญต่อระบบนิเวศเพราะเป็นทั้งแหล่งอาหาร ที่วางไข่ และแหล่งอนุบาลสัตว์ทะเลวัยอ่อน ซึ่งที่บ้านเปร็ดในแห่งนี้ มีพื้นที่ป่าชายเลนกว่า 12,000 ไร่ ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ

โดยชาวบ้านใช้ภูมิปัญหาท้องถิ่น บริหารจัดการ 4 น้ำ คือ น้ำเค็ม น้ำกร่อย น้ำจืด และน้ำเสีย ใช้น้ำจืดดันน้ำเค็มไม่ให้เข้ามาในเรือกสวนไร่นา และดักน้ำเสียไม่ให้ออกไปสู่ทะเล ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ลงเรือไปชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนด้วย

ส่วนการอนุรักษ์ป่าชายเลน เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาจังหวัดตราด เพราะเป็นจังหวัดที่มีด่านชายแดนเชื่อมต่อกับประเทศกัมพูชา ดังนั้นรัฐบาลจึงมีเป้าหมายจะพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนที่นี่เชื่อมเข้ากับอาเซียน และ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC

จุดเด่นของจังหวัดตราด คือ เป็นแหล่งประมงที่สำคัญมีมูลค่าผลิตภัณฑ์สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศ มีช่องทางการค้าชายแดน 3 จุด คือ บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ , ช่องบ้านม่วง อำเภอบ่อไร่ ,บ้านท่าเส้นหมู่ 8 ตำบลแหลมกลัด อำเภอเมือง

มีแนวชายฝั่ง 160 กว่ากิโลเมตร เป็นร่องทะเลน้ำลึกที่เหมาะจะทำท่าเทียบเรือขนาด 500 ตันกรอส เชื่อมโยงกับกัมพูชา เวียดนาม และอินโดจีน

ทางจังหวัดตราดจึงเสนอของบประมาณจำนวน 10,147 ล้านบาท เพื่อพัฒนาให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมการเกษตร และประมงแบบครบวงจร และเชื่อมพื้นที่เศรษฐกิจตามแนวชายแดนเข้ากับกัมพูชา และเวียดนาม โดยเฉพาะเส้นทางคมนาคมที่ขณะนี้เริ่มลงมือแล้ว คือ ขยายถนนจากอำเภอเมืองตราดไปถึงด่านชายแดนบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ ต่อเข้ากับเกาะกง-สแรอัมเบิล ไปจนถึงกรุงพนมเปญของกัมพูชา

และทำรถไฟทางคู่จากจังหวัดตราดไปที่จังหวัดจันทบุรี เชื่อมเข้ากับรถไฟความเร็วสูงที่จังหวัดระยอง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการลงทุน การท่องเที่ยว และการค้าชายแดนตามมา

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ข้ามไปเกาะช้างเพื่อติดตามเรื่องการบริหารจัดการขยะบนเกาะ และผลักดันให้การท่องเที่ยวบนเกาะช้างเป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ