หน้าหลัก กลุ่มนครนายก
[รุ่น 1]
การอบรมสัมนา ข่าวสารประชาสัมพันธ์ คลังความรู้ ประชาสัมพันธ์จังหวัด เวบบอร์ดข่าวสาร ติดต่อสอบถาม

 

      เรื่อง : สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินฯ วอนอย่าป่วน 'สายด่วน1669' ฝ่าฝืน โทษปรับสูง 5พันบาท

      ผู้ส่งข่าว : นาย ไชยยันต์ พงศะบุตร

      ประชาสัมพันธ์ เมื่อ : 20180417 เวลา : 06:27:15      มีผู้อ่านข่าวประชาสัมพันธ์นี้แล้ว   435   ครั้ง


      รายละเอียด : สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินฯ วอนอย่าป่วน 'สายด่วน1669' ฝ่าฝืน โทษปรับสูง 5พันบาท

เมื่อวันที่ 2 มกราคม นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เปิดเผยว่า สพฉ.อยากรณรงค์ให้คนไทยเห็นความสำคัญของการใช้สายด่วนฉุกเฉิน และจดจำหมายเลข 4 ตัว 1669 ที่ให้บริการฟรี 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศ ไว้ให้ดี เพราะถือเป็นสายด่วนที่ช่วยชีวิตได้ โดยข้อควรรู้สำหรับประชาชนที่จะโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากสายด่วน 1669 คือ

1.เมื่อพบเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินให้ตั้งสติและโทรแจ้งสายด่วน 1669

2.ให้ข้อมูลว่าเกิดเหตุอะไรมีผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บในลักษณะใด

3.บอกสถานที่เกิดเหตุเส้นทางจุดเกิดเหตุให้ชัดเจน

4.บอกเพศ ช่วงอายุ อาการ จำนวน ผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บ

5.บอกระดับความรู้สึกตัวของ ผู้ป่วย

6.บอกความเสี่ยงที่อาจเกิดซ้ำ เช่น อยู่กลางถนน หรือรถติดแก๊ส ฯลฯ

7.บอกชื่อผู้แจ้งเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้

8.ช่วยเหลือเบื้องต้นตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

9.รอทีมกู้ชีพไปรับผู้ป่วยเพื่อนำส่งโรงพยาบาล

“อยากขอร้องประชาชนไม่ให้โทรป่วนสายด่วน อย่าเห็นเป็นเพียงเรื่องสนุก เพราะหลายๆ ครั้ง ทำให้เราต้องสูญเสียผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมทั้งอยากเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมโทรป่วนด้วยว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดตามมาตรา 38 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ.2551 ที่ระบุว่าผู้ใดใช้ระบบสื่อสารและเทคโนโลยีที่จัดไว้สำหรับการปฏิบัติการฉุกเฉินโดยประการที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่การปฏิบัติการฉุกเฉิน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท รวมทั้ง มาตรา 397 ตามประมวลกฎหมายอาญา ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และนอกจากเป็นห่วงเรื่องการโทรป่วนแล้ว ยังเป็นห่วงเรื่องการโทรผิดหมายเลขด้วย เพราะจะทำให้การช่วยเหลือล่าช้าลงไปอีก ซึ่งจากสถิติพบว่า ตลอดปี 2559 ประชาชนโทรไปที่เบอร์อื่นก่อน หรือแจ้งผ่านวิทยุสื่อสาร ถึงร้อยละ 26” นพ.อนุชา กล่าว

 

 

 

 

 

มีผู้อ่านข่าวสารของกลุ่มแล้วจำนวน       ราย