หน้าหลัก กลุ่มนครนายก
[รุ่น 1]
การอบรมสัมนา ข่าวสารประชาสัมพันธ์ คลังความรู้ ประชาสัมพันธ์จังหวัด เวบบอร์ดข่าวสาร ติดต่อสอบถาม

 

      เรื่อง : นายกฯสั่งชัดเจน คุมราคาดีเซล/LPG ไม่ขึ้นราคาสินค้าไม่ขึ้นค่ารถเมล์ ไม่ขึ้นภาษีแวตไม่ขึ้นทุกอย่าง

      ผู้ส่งข่าว : นาย ไชยยันต์ พงศะบุตร

      ประชาสัมพันธ์ เมื่อ : 20180528 เวลา : 07:12:23      มีผู้อ่านข่าวประชาสัมพันธ์นี้แล้ว   335   ครั้ง


      รายละเอียด : นายกฯสั่งชัดเจน คุมราคาดีเซล/LPG ไม่ขึ้นราคาสินค้าไม่ขึ้นค่ารถเมล์ ไม่ขึ้นภาษีแวตไม่ขึ้นทุกอย่าง

ไม่ขึ้นราคาสินค้าไม่ขึ้นค่ารถเมล์ไม่ขึ้นภาษีแวตไม่ขึ้นทุกอย่าง

-------------------------

นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชน จากกรณีน้ำมันและก๊าซมีการขยับราคาในช่วงที่ผ่านมา โดยสั่งตรึงราคาสินค้า และไม่ให้กระทบสินค้าอื่น

โดยพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ระบุถึงการดูแลราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซแอลพีจี หรือก๊าซหุงต้มว่า

รัฐบาลไม่ได้บริหารงานโดยยึดหลักเศรษฐศาสตร์หรือกลไกตลาดเพียงอย่างเดียว แต่คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนด้วย หากประชาชนเดือดร้อนหรือประสบปัญหาก็จำเป็นต้องเข้าไปแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ขอให้สบายใจว่า ต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซแอลพีจีอยู่ในระดับที่ควบคุมได้อย่างเหมาะสม จะไม่กระทบต่อราคาสินค้าและบริการ

โดยรัฐบาลจะใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปช่วยอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร และอุดหนุนราคาก๊าซแอลพีจี 10 บาทต่อขนาดถัง 15 กก. ทำให้ราคาแอลพีจีลดลงเหลือไม่เกินถังละ 363 บาท มีผลวันที่ 28 พฤษภาคมนี้

นายกรัฐมนตรี ยังได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ตรึงราคาสินค้าและบริการให้เป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็น ค่าโดยสาร ค่าอาหาร ค่าไฟฟ้า ค่าสินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน

โดยย้ำว่า เมื่อประเทศต้องประสบปัญหาใดๆ ก็ตาม คนไทยทุกคนจะต้องร่วมมือร่วมใจกันฝ่าฟันไปให้ได้ พร้อมให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกติดตามราคาสินค้าและบริการ เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค

นอกจากนี้ พล.ท.สรรเสริญ ยังยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ตามที่มีกระแสข่าว โดยจะยังคงไว้ที่อัตรา 7% เพราะไม่ต้องการผลักภาระให้ประชาชนเดือดร้อน

จึงไม่อยากให้สังคมตื่นตระหนกและหลงเชื่อการปล่อยข่าวจากผู้ไม่หวังดี หรือนำเรื่องไม่จริงไปวิพากษ์วิจารณ์จนเกิดความสับสนขึ้นในสังคม

ที่มา ...แจงสี่เบี้ย

ขอขอบคุณ แหล่งภาพ nation, mthai news .....................

 

 

 

 

 

มีผู้อ่านข่าวสารของกลุ่มแล้วจำนวน       ราย