หน้าหลัก กลุ่มนครนายก
[รุ่น 1]
การอบรมสัมนา ข่าวสารประชาสัมพันธ์ คลังความรู้ ประชาสัมพันธ์จังหวัด เวบบอร์ดข่าวสาร ติดต่อสอบถาม

 

      เรื่อง : รัฐบาลแจงข้อเท็จจริงกรณีโลกออนไลน์แชร์ข่าวให้ร้ายนายกฯต่อเนื่องชี้วงจรป้ายสีทางการเมืองเริ่มกลับมา

      ผู้ส่งข่าว : นาย ไชยยันต์ พงศะบุตร

      ประชาสัมพันธ์ เมื่อ : 20180603 เวลา : 10:15:14      มีผู้อ่านข่าวประชาสัมพันธ์นี้แล้ว   326   ครั้ง


      รายละเอียด :

รัฐบาลแจงข้อเท็จจริงกรณีโลกออนไลน์แชร์ข่าวให้ร้ายนายกฯต่อเนื่องชี้วงจรป้ายสีทางการเมืองเริ่มกลับมา

เตือนผู้ไม่หวังดีหยุดสร้างความเกลียดชังเสี่ยงถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีการแชร์ภาพและข้อความในโซเชียลมีเดียระบุ "บิ๊กตู่ติงคนไทยใช้สมองน้อย แฉมีคนจ้องทำลายทหาร-สถาบัน" ว่า มีความพยายามของคนบางกลุ่มที่ต้องการนำข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน ไม่ถูกต้อง หรือนำเสนอเพียงบางช่วงบางตอน มาเผยแพร่อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล เพราะใกล้เข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว

เมื่อตรวจสอบข่าวล่าสุดที่มีการเผยแพร่แล้วจะพบว่า เป็นข่าวเก่าที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ปี 2558 โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ นายกฯ พบหอการค้า รวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วนายกฯ พูดว่า

คนไทยเป็นคนโรแมนติก ส่วนใหญ่ใช้ความรู้สึก ใช้หัวใจเสียเป็นส่วนมาก แต่ใช้สมองน้อยในการคิดใคร่ครวญว่ามันใช่หรือไม่ใช่ ตนไม่ได้ดูถูก ดังนั้น วันนี้สิ่งแรกที่เราต้องแก้ คือ เราต้องมีความรู้ มีสติ และมีความรู้สึกในการครองชีวิต หากประเทศไทยยังใช้ความรู้สึกในการดำรงชีวิตอยู่อย่างนี้ ไม่ว่าอะไรก็ตาม ก็คงเดินต่อไปกันไม่ได้

โฆษกประจำสํานักนายกรัฐมนตรีตั้งขอสังเกต ว่า ขณะนี้วงจรของการใส่ร้ายป้ายสีทางการเมืองเริ่มกลับมาอีกครั้ง โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้พี่น้องประชาชนทราบอย่างถูกต้องและรวดเร็วทันสถานการณ์ โดยเฉพาะทางสื่อโซเชียลมีเดียที่มีการเผยแพร่และส่งต่อกันเป็นจำนวนมาก เพื่อลดความสับสนวุ่นวาย

พร้อมทั้งเตือนไปยังนักเลงคีย์บอร์ดทั้งหลายที่จงใจสร้างข่าวปลอม ให้ร้าย หรือตัดข้อมูลเพียงบางส่วนไปนำเสนอ เพื่อสร้างความเกลียดชังกันนั้น ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย จึงขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว โดยหากสืบสวนพบต้นตอของข่าวและตัวผู้กระทำผิด จะถูกดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ขอขอบคุณ ภาพจาก ทำเนียบรัฐบาล คมชัดลึก วิหคนิวส์

 

 

 

 

 

มีผู้อ่านข่าวสารของกลุ่มแล้วจำนวน       ราย