หน้าหลัก กลุ่มนครนายก
[รุ่น 1]
การอบรมสัมนา ข่าวสารประชาสัมพันธ์ คลังความรู้ ประชาสัมพันธ์จังหวัด เวบบอร์ดข่าวสาร ติดต่อสอบถาม

 

      เรื่อง : นายกฯยินดีกระทรวงอุตฯวางศิลาฤกษ์ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ แห่งแรกของเอเชียดึงดูดการลงทุนสู่อีอีซีคาดแล้วเสร็จปี 63

      ผู้ส่งข่าว : นาย ไชยยันต์ พงศะบุตร

      ประชาสัมพันธ์ เมื่อ : 20180605 เวลา : 06:23:32      มีผู้อ่านข่าวประชาสัมพันธ์นี้แล้ว   327   ครั้ง


      รายละเอียด :

นายกฯยินดีกระทรวงอุตฯวางศิลาฤกษ์ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ แห่งแรกของเอเชียดึงดูดการลงทุนสู่อีอีซีคาดแล้วเสร็จปี 63

แนะผู้ประกอบการและแรงงานไทยใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยินดีที่กระทรวงอุตสาหกรรมเริ่มเดินหน้าการพัฒนาศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้วางศิลาฤกษ์ก่อสร้างศูนย์ดังกล่าวซึ่งถือเป็นแห่งแรกของเอเชีย เพื่อดึงดูดการลงทุนสู่พื้นที่ EEC คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการ และเปิดให้บริการแบบครบวงจรได้ในปี 2563

"นายกฯ ย้ำว่าอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในนวัตกรรมและเทคโนโลยี (S-Curve) ที่ไทยมีความเข้มแข็ง จึงหวังให้ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ภาคธุรกิจ ช่วยให้ผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ไม่ต้องส่งผลิตภัณฑ์ออกไปทดสอบและขอใบรับรองจากต่างประเทศ และยังจะช่วยดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราในประเทศไทยมากขึ้น"

ทั้งนี้ โครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ประกอบด้วย 1. ส่วนทดสอบยางล้อ ซึ่งมีสนามทดสอบยางล้อและเครื่องมือทดสอบตามมาตรฐาน ทดสอบรายการเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุนของยางล้อ และ 2. ส่วนทดสอบยานยนต์และชิ้นส่วน มีสนามทดสอบกลางแจ้ง เช่น ทดสอบสมรรถนะยานยนต์ ระบบเบรก ระบบเบรกมือ การยึดเกาะถนนขณะเข้าโค้ง

นายกรัฐมนตรี คาดหวังให้ผู้ประกอบการและแรงงานไทยใช้ประโยชน์จากศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติอย่างเต็มที่ ทั้งการเก็บเกี่ยวความรู้และพัฒนาทักษะฝีมือให้โดดเด่น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้เป็นอย่างดี โดยศูนย์ดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ 1,234.98 ไร่ บริเวณเขตสวนป่าลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา

ขอขอบคุณแหล่งภาพ thaigov,MSS

 

 

 

 

 

มีผู้อ่านข่าวสารของกลุ่มแล้วจำนวน       ราย