หน้าหลัก กลุ่มนครนายก
[รุ่น 1]
การอบรมสัมนา ข่าวสารประชาสัมพันธ์ คลังความรู้ ประชาสัมพันธ์จังหวัด เวบบอร์ดข่าวสาร ติดต่อสอบถาม

 

      เรื่อง : นายกฯ ปลื้ม WIPO ปรับอันดับดัชนีนวัตกรรมไทยดีขึ้น ชี้ไทยมีศักยภาพการผลิตสินค้าสร้างสรรค์ แนะประชาชนพัฒนานวัตกรรมของตนเอง เพิ่มมูลค่าผลผลิต ยกระดับรายได้ยั่งยืน

      ผู้ส่งข่าว : นาย ไชยยันต์ พงศะบุตร

      ประชาสัมพันธ์ เมื่อ : 20180716 เวลา : 07:44:23      มีผู้อ่านข่าวประชาสัมพันธ์นี้แล้ว   317   ครั้ง


      รายละเอียด :

นายกฯ ปลื้ม WIPO ปรับอันดับดัชนีนวัตกรรมไทยดีขึ้น ชี้ไทยมีศักยภาพการผลิตสินค้าสร้างสรรค์ แนะประชาชนพัฒนานวัตกรรมของตนเอง เพิ่มมูลค่าผลผลิต ยกระดับรายได้ยั่งยืน

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยินดีที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ได้เปิดเผยรายงานการประเมินผลดัชนีนวัตกรรมโลก ประจำปี 2561 โดยประเทศไทยมีอันดับดีขึ้นถึง 7 อันดับ จากอันดับที่ 51 ในปีที่แล้วมาเป็นอันดับที่ 44 ในปีนี้ จากทั้งหมด 126 ประเทศทั่วโลก

"นายกฯ รับทราบว่า ประเทศไทยยังถูกจัดให้เป็นผู้นำในหลายด้าน เช่น การส่งออกสินค้าสร้างสรรค์ ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 6 การส่งออกสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง อันดับที่ 8 และการจดทะเบียนอนุสิทธิบัตร อันดับที่ 11 นอกจากนี้ WIPO และหน่วยงานที่ร่วมกันจัดทำรายงานฉบับนี้ได้ระบุด้วยว่า ไทยเป็น 1 ใน 20 ประเทศ ที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาด้านนวัตกรรม"

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง ส่งเสริม คุ้มครอง การใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ และป้องกันปราบปรามการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เพิ่มงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาให้มากขึ้น และบูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา

"นายกฯ เน้นย้ำว่า อยากให้คนไทยเรียนรู้ที่จะพัฒนานวัตกรรม โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์เข้ามาประยุกต์ใช้ รวมทั้งคำนึงถึงความต้องการของตลาดเพื่อให้เกิดการผลิตที่ตอบสนองผู้บริโภคได้ ที่สำคัญคือนักวิจัยจะต้องช่วยคิดค้นผลงานที่ตอบโจทย์ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างยั่งยืน ให้สามารถเพิ่มมูลค่าผลผลิตของตนได้โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ทำอย่างไรให้ผลิตน้อยแต่ได้ราคาดี แทนที่จะผลิตออกมามาก ๆ แต่ขาดทุน"

ขอขอบคุณ ภาพ โพสต์ทูเดย์

 

 

 

 

 

มีผู้อ่านข่าวสารของกลุ่มแล้วจำนวน       ราย