หน้าหลัก กลุ่มนครนายก
[รุ่น 1]
การอบรมสัมนา ข่าวสารประชาสัมพันธ์ คลังความรู้ ประชาสัมพันธ์จังหวัด เวบบอร์ดข่าวสาร ติดต่อสอบถาม

 

      เรื่อง : พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561

      ผู้ส่งข่าว : จปร.FM 89.75 MHz.

      ประชาสัมพันธ์ เมื่อ : 20181119 เวลา : 8:28:27      มีผู้อ่านข่าวประชาสัมพันธ์นี้แล้ว   342   ครั้ง


      รายละเอียด :

           ภาคตะวันออก และภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปถึงจังหวัดสงขลามีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

           กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

           อนึ่ง พายุดีเปรสชัน “โทราจี” (Toraji) บริเวณประเทศเวียดนามตอนล่างได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว โดยอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโฮจิมินห์ ประมาณ 35 กิโลเมตร คาดว่าหย่อมความกดอากาศต่ำนี้จะเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวไทย ผ่านภาคใต้สู่ทะเลอันดามัน ในช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. 61 ทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปถึงจังหวัดสงขลามีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยังประเทศเวียดนามตอนล่างควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย


        ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับพายุดีเปรสชัน “โทราจี” (Toraji) ได้ขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนใต้และอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว ส่งผลให้ 
  • ภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ขณะที่ลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมภาคใต้ อ่าวไทย และภาคตะวันออก ทำให้ภาคใต้ และภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
  • ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก พิจิตร สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก และพิจิตร
    • อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
    • อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
    • สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส
    • ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู
    • อุดรธานี หนองคาย ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา
    • อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
    • อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส
    • สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส
    • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
  • ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา
    • อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
    • อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
    • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    • ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    • อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
    • อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
    • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    • ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

  • ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    • ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
    • อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
    • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    • ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
  • ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
    • อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
    • อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
    • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    • ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
  • กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
    • อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
    • อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
    • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

 

 

 

 

มีผู้อ่านข่าวสารของกลุ่มแล้วจำนวน       ราย