รายละเอียด : ชาวบ้านจันทบุรี น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของ ร.9 มาปรับใช้ทำการเกษตรแบบผสมผสาน สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ นางสมัน จอมทรักษ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 หมู่ที่ 6 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ที่ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้ในการทำการเกษตรแบบผสมผสาน
ทั้งการปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร ผักปลอดสารพิษ ไม้ดอกไม้ประดับ ลำไย และการทำปุ๋ยมูลไส้เดือน ในเนื้อที่กว่า 1 ไร่ โดยได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กว่า 1 ปีแล้ว ทำให้ในปัจจุบัน นางสมัน และครอบครัว มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พืชสวนที่ปลูกไว้สามารถนำมาบริโภค เหลือก็จะนำไปขาย นอกจากนี้หนี้ที่กู้ยืมมาก็เริ่มจะหมดไป
นางสมัน กล่าวว่า ตนเองได้น้อมนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวงมาปรับใช้ โดยกินทุกอย่างที่ปลูก ปลูกทุกอย่างที่กินที่พ่อหลวงสั่งสอนไว้ และอยู่อย่างพอเพียง ใช้โดยประมาณ และมีเหตุผลในการใช้ ซึ่งคำสั่งสอนของพ่อหลวงมีมานานแล้ว แต่ไม่ได้นำมาปฏิบัติ ตนเองพึ่งจะนำมาใช้ก็เมื่อ 1 ปีกว่า ซึ่งแต่ก่อนตนเองก็ไม่มีงานทำ และมีคนแนะนำให้ไปอบรมการเลี้ยงไส้เดือน ก็เลยนำมาปรับใช้ จนเป็นผลสำเร็จมาถึงวันนี้
นอกจากนี้ ปัจจุบันเดิมตนเองมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง แต่เนื่องด้วยอายุที่มากขึ้นทุกวัน จึงได้หันเหชีวิตมาเรียนรู้แนวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยไปเรียนรู้ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในหมู่บ้าน และศึกษาจากหนังสือ ก่อนที่จะนำมาปรับใช้จนในปัจจุบันสามารถทำการเกษตรแบบผสมสานเป็นผลสำเร็จ และครอบครัวก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งตนเองและครอบครัวก็จะน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปใช้จนชีวิตจะหาไม่