เรื่อง : กระทรวงดิจิทัลฯ เตือนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระวังปฏิบัติการ "GhostSecret" ใช้เซิร์ฟเวอร์ในไทยทำการโจมตีขโมยข้อมูลด้วยมัลแวร์ฯ

      ผู้ส่งข่าว : นาย ไชยยันต์ พงศะบุตร

      ประชาสัมพันธ์ เมื่อ : 20180502 เวลา : 08:16:31      มีผู้อ่านข่าวประชาสัมพันธ์นี้แล้ว   293   ครั้ง




      รายละเอียด :

กระทรวงดิจิทัลฯ เตือนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระวังปฏิบัติการ "GhostSecret" ใช้เซิร์ฟเวอร์ในไทยทำการโจมตีขโมยข้อมูลด้วยมัลแวร์ฯ

             กระทรวงดิจิทัลฯ เตือนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระวังมัลแวร์ตัวใหม่ สร้างความเสียหายต่อข้อมูลสำคัญที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยกลุ่มแฮกเกอร์ "Hidden Cobra" ใช้ชื่อปฏิบัติการว่า "GhostSecret" พบใช้เซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทยทำการโจมตี มุ่งทำลายหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมบันเทิง ภาคการเงินและสาธารณสุข ขณะนี้ถูกโจมตีแล้วกว่า 17 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย แนะห้ามโหลดไฟล์ที่ไม่รู้ที่มา และควรอัปเดตระบบปฏิบัติการรวมถึงโปรแกรมป้องกันไวรัสให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ

               นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ เปิดเผยว่า ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หน่วยงานสังกัดกระทรวงดิจิทัลฯ ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2561 บริษัท McAfee ได้เผยแพร่การค้นพบปฏิบัติการโจมตีขโมยข้อมูลด้วยมัลแวร์ (Malware) ซึ่งมุ่งเป้าไปยังหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ หน่วยงานภาคอุตสาหกรรมบันเทิง ภาคการเงิน และภาคสาธารณสุข ในประเทศต่างๆ กว่า 17 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่พบ 45 ระบบ ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์ดังกล่าว โดยเริ่มพบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งปฏิบัติการนี้ถูกตั้งชื่อว่า GhostSecret ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์ชื่อ Hidden Cobra  ในรายงานของ McAfee ระบุพบการใช้เซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทยในการโจมตี ซึ่งหมายเลขไอพีของระบบเป็นกลุ่มเดียวกับที่พบในการโจมตีบริษัท Sony

            โดยมัลแวร์ดังกล่าว ได้สร้างผลกระทบในด้านต่างๆ อาทิ การสูญเสียข้อมูลสำคัญ หรือ ข้อมูลความลับขององค์กร การสูญเสียความพร้อมใช้งานทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ปกติ และสูญเสียค่าใช้จ่ายเพื่อการกู้คืนระบบ สำหรับการรับมือและป้องกันมัลแวร์นี้ เบื้องต้นอาจพิจารณาบล็อกการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลายทาง

            ตามข้อแนะนำของศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) ทางเว็บไซต์ https://www.thaicert.or.th กรณีที่พบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ติดมัลแวร์ ควรตัดการเชื่อมต่อจากเครือข่ายทันที เช่น การดึงสายแลนด์ออก ใช้เทคนิค Application Whitelist เพื่อป้องกันมัลแวร์ และโปรแกรมที่ไม่ได้รับการอนุญาตสามารถทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ โดยจัดการให้มีเพียงโปรแกรมที่ระบุและตรวจสอบแล้วทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนโปรแกรมอื่นๆ ซึ่งรวมถึงมัลแวร์จะไม่สามารถทำงานได้ พร้อมอัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

 

            ทั้งนี้ ช่องโหว่ของโปรแกรมและระบบปฏิบัติการนั้น จะเป็นเป้าหมายในการโจมตีอยู่บ่อยครั้ง การติดตั้งแพตช์ในเวอร์ชันล่าสุด จะเป็นการลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีได้เป็นอย่างดี และควรอัปเดตโปรแกรมป้องกันไวรัสเป็นระยะ รวมถึงดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากเว็บไซต์ทางการหรือแหล่งที่น่าเชื่อถือ พร้อมทั้งจำกัดสิทธิของผู้ใช้งาน (Permissions) ในการติดตั้งและรันโปรแกรมต่างๆ โดยยึดหลัก "Least Privilege" สำหรับทุกระบบและทุกบริการ ซึ่งการจำกัดสิทธิ์ดังกล่าวจะเป็นการป้องกันมัลแวร์ในการรัน และการแพร่กระจายในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รวมถึงหลีกเลี่ยงในการเปิด Macro จากไฟล์เอกสารแนบที่มากับอีเมล เนื่องจากอาจมีการเรียกทำงานโค้ดที่ซ่อนตัว อยู่ในไฟล์ดังกล่าว ส่งผลให้ติดมัลแวร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ และก่อให้เกิดความเสียหายได้ กรณีหน่วยงานและ องค์กรขนาดใหญ่ ควรบล็อกอีเมลที่มีไฟล์แนบจากแหล่งไม่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ หากพบเหตุต้องสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในกรณีนี้ สามารถประสานกับไทยเซิร์ตได้ทางอีเมล report@thaicert.or.th หรือโทรศัพท์หมายเลข 0-2123-1212


             "ขณะนี้ ไทยเซิร์ต อยู่ระหว่างดำเนินการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าถึงข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ในการโจมตี เพื่อวิเคราะห์ร่วมกับ McAfee และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรวบรวมรายการผู้ตกเป็นเหยื่อในประเทศไทยเพื่อดำเนินการประสานแจ้งเหตุและให้ความช่วยเหลือต่อไป" น.อ.สมศักดิ์ฯ กล่าว

*******************

 

 

 


มีผู้อ่านข่าวแล้วจำนวน       ราย