สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า
เงินบาทแข็งแกร่งเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่ม 12 ประเทศเอเชียและ เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากเมกซิโกในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจ Emerging market
นักวิเคราะห์ชาวญี่ปุ่นจาก Tokyo , Mitsubishi UFJ Kokusai Asset Management Co., กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แกร่งขึ้นนี้ ได้รับผลมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคงและเงินเฟ้อกลับเข้าสู่อัตราที่เป็นที่พึงพอใจ ความแข็งแกร่งของสกุลเงินบาทไทย น่าจะยังต่อเนื่องต่อไปถึงไตรมาสสุดท้ายของปี ที่จะมีเงินไหลเข้าจากนักท่องเที่ยวอีก และจะมีเงินทุนไหลเข้าไทย 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ตลาดหุ้นคึกคักเป็น Best Performer แห่งเอเชียด้วย
ผมได้ยินคนไทยบ่นกันมากว่า เศรษฐกิจของไทยแย่สุดๆ สังเกตได้จากกิจการค้าขายต่างๆ เงียบ ของขายไม่ออก ไม่คึกคักเหมือนเมื่อก่อน
สิ่งที่ผมพยายามจะอธิบายคือ ปัจจุบันโลกที่เราอยู่ มันเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปมากจนคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ เครื่องไม้เครื่องมือที่ท่านทั้งหลายใช้ ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว เครื่องมือที่พวกเราชาวบ้านใช้วัดเศรษฐกิจก็เปลี่ยนไปด้วย เพราะเครื่องมือเดิมที่เราใช้วัดว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี คือสายตาที่เรามองไปที่ร้านค้า ตลาด การพูดกันปากต่อปาก แต่ปัจจุบันสายตาเรามองไม่เห็นแล้วว่าเศรษกิจ มันดีขึ้นได้ยังไง เพราะมันค้านสายตา ที่เราเห็นว่ามันเงียบเหงามาก
คุณลองคิดตามดูนะ คุณเห็นมั้ย... เราใช้กล้องถ่ายรูปที่ไม่มีฟิล์ม (มานานแล้ว) คนจำนวนมาก ไม่ได้ดูหนังฟังเพลงจากเทป ซีดี หรือวิทยุ ทีวี ถึงจะยังมีบางคนอาจจะยังดูหนังละคร ฟังเพลงจากวิทยุ ซีดี ดีวีดี บลูเรย์ แต่คนอีกจำนวนมากดูหนังละครและฟังเพลงจากสื่อออนไลน์
การค้าขายก็เช่นกัน เขาค้าขายกันออนไลน์มานานแล้ว คุณรู้หรือเห็นมั้ยว่า พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว ร่ำรวย เป็นคนอายุน้อยร้อยล้าน มากมาย มันจะแปลกอะไร ถ้าร้านขายเสื้อผ้าประตูน้ำจะเงียบลงอย่างเห็นได้ชัด จะสงสัยอะไรถ้าร้านขายของในตลาดนัด หรือร้านขายของในซอยบ้านเรา จะเงียบลง รวมไปถึงร้านค้า ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ โซเซแทบจะล้ม ที่ออสเตรเลียที่ผมอยู่ก็มีอาการเดียวกันกับเมืองไทย ร้านเสื้อผ้าแบนด์ดังๆ เรียงหน้าก็ค่อยๆ ลดขนาดร้าน ย้ายที่ หรือไม่ก็ปิดกิจการ คุณเคยเห็นมั้ย ร้านทองยังมีการค้าทองออนไลน์ แม้แต่โรงจำนำยังขายของหลุดจำนำออนไลน์เพราะอะไร เพราะเทคโนโลยีมันมาเหมือนกับซึนามิ
อะไรที่ยังเป็นแบบเก่าๆ ถ้ายังไม่รู้ตัว ถ้ายังไม่ปรับตัว ก็ไม่มีทางรอด ทั้งหมดทั้งมวล ไม่ใช่รัฐบาลทหารที่คุณสบประมาทว่าไม่มีฝีมือ แต่เพราะโลกที่คุณเคยอยู่ มันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว เศรษฐกิจของไทยเราดีกว่าเพื่อนบ้านเอเชียอีกหลายชาติ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าค่าเงินบาทของเราแข็งแกร่งมากขึ้นด้วย
สมัยที่ผมอยู่ออสเตรเลียใหม่ $1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับ 25 บาท แล้วก็ขึ้นไปถึง 30 บาทต้นๆ
ปัจจุบัน $1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับ 20 บาทต้นๆ ซึ่งมันแปลว่า ค่าเงินบาทแข็งขึ้น ที่แข็งขึ้นได้ ก็เพราะเศรษฐกิจมันดีขึ้น แต่ชาวบ้านร้านตลาดอย่างเราๆ อาจไม่สามารถรับรู้ ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย เพราะที่เห็นกับตา มันตรงกันข้าม ที่ตรงกันข้าม เพราะคุณล้าสมัยไปเรียบร้อยแล้ว โดยไม่รู้ตัว โดยไม่ทันตั้งตัว
มันเหมือนคุณยังเปิดร้านขายฟิล์มถ่ายรูป แล้วมันขายไม่ออก ทั้งตัวพ่อค้า ทั้งชาวบ้านที่เห็นว่าร้านคุณขายของไม่ได้ ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียว ต่อๆ กันไป ว่าเศรษฐกิจไทยตกต่ำ แต่คุณลืมกันไปว่า ไม่มีใครใช้ฟิล์มถ่ายรูปมานานแล้ว
EddieNews ช่องนนทรีย์ : รายงาน
Credit:Eddie Atsadang Yommanak
https://www.bloomberg.com/news/articles/2018-09-28/in-a-stormy-quarter-thailand-s-baht-shines-as-rate-rise-beckons