เรื่อง : นายกรัฐมนตรี สั่งทบทวน ร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์ ย้ำเจตนารมณ์ สร้างกฎหมายที่ทันสมัย คุ้มครองครอบคลุม และเป็นธรรมต่อทุกคน
ผู้ส่งข่าว : นายไชยยันต์ พงศะบุตร
ประชาสัมพันธ์ เมื่อ : 20181017 เวลา : 8:27:06 มีผู้อ่านข่าวประชาสัมพันธ์นี้แล้ว 317 ครั้ง
นายกรัฐมนตรี สั่งทบทวน ร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์ ย้ำเจตนารมณ์ สร้างกฎหมายที่ทันสมัย คุ้มครองครอบคลุม และเป็นธรรมต่อทุกคน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้รับรายงานในรายละเอียดเกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ฉบับที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ไขแล้ว แต่รับทราบถึงความกังวลของประชาชน พร้อมสั่งการให้ฝ่ายกฎหมายไปดูแลเรื่องดังกล่าว "หากร่างกฎหมายมีรายละเอียดตามที่มีกระแสข่าว เช่น แค่อ้างเหตุสงสัยว่าจะกระทบความมั่นคงก็สามารถตรวจค้นข้อมูลส่วนตัวและข้อความสนทนาของประชาชนได้ หรือ บุกค้นและยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องมีหมายศาล รวมถึงห่วงว่าจะมีการให้อำนาจแก่เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติมากจนเกินไป เป็นต้น ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน เพราะเห็นแต่บทกำหนดโทษและการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทั้งหมดนี้ ควรจะต้องมีการกำหนดขอบเขตและมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน" นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งหวั่นวิตก เพราะร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ฉบับนี้ ยังต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติอีก ซึ่งมีขั้นตอนในการพิจารณาถึง 3 วาระ นอกจากนี้ ยังได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายไปทบทวนรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงควรพิจารณาว่าจะมีกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจกันอย่างไร พร้อมทั้งให้ศึกษากฎหมายที่คล้ายกันในนานาประเทศด้วย และใช้แนวทางนี้ในการพิจารณากฎหมายทุกฉบับ "ขอให้ทุกหน่วยงานที่จะออกกฎหมายใหม่ ให้ความสำคัญกับขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็นให้มากขึ้น โดยในการเปิดรับฟังความเห็น อาจมีผู้เชี่ยวชาญช่วยสร้างความเข้าใจในเนื้อหาของกฎหมายแต่ละข้อแก่พี่น้องประชาชน เป็นต้น ประเทศไทยจะได้มีกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุม ทันสมัย เป็นธรรมต่อทุกคน และไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล" ขอขอบคุณ ภาพจาก INNNEWS
นายกรัฐมนตรี สั่งทบทวน ร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์ ย้ำเจตนารมณ์ สร้างกฎหมายที่ทันสมัย คุ้มครองครอบคลุม และเป็นธรรมต่อทุกคน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้รับรายงานในรายละเอียดเกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ฉบับที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ไขแล้ว แต่รับทราบถึงความกังวลของประชาชน พร้อมสั่งการให้ฝ่ายกฎหมายไปดูแลเรื่องดังกล่าว "หากร่างกฎหมายมีรายละเอียดตามที่มีกระแสข่าว เช่น แค่อ้างเหตุสงสัยว่าจะกระทบความมั่นคงก็สามารถตรวจค้นข้อมูลส่วนตัวและข้อความสนทนาของประชาชนได้ หรือ บุกค้นและยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องมีหมายศาล รวมถึงห่วงว่าจะมีการให้อำนาจแก่เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติมากจนเกินไป เป็นต้น ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน เพราะเห็นแต่บทกำหนดโทษและการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทั้งหมดนี้ ควรจะต้องมีการกำหนดขอบเขตและมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน" นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งหวั่นวิตก เพราะร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ฉบับนี้ ยังต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติอีก ซึ่งมีขั้นตอนในการพิจารณาถึง 3 วาระ นอกจากนี้ ยังได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายไปทบทวนรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงควรพิจารณาว่าจะมีกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจกันอย่างไร พร้อมทั้งให้ศึกษากฎหมายที่คล้ายกันในนานาประเทศด้วย และใช้แนวทางนี้ในการพิจารณากฎหมายทุกฉบับ "ขอให้ทุกหน่วยงานที่จะออกกฎหมายใหม่ ให้ความสำคัญกับขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็นให้มากขึ้น โดยในการเปิดรับฟังความเห็น อาจมีผู้เชี่ยวชาญช่วยสร้างความเข้าใจในเนื้อหาของกฎหมายแต่ละข้อแก่พี่น้องประชาชน เป็นต้น ประเทศไทยจะได้มีกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุม ทันสมัย เป็นธรรมต่อทุกคน และไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล"
ขอขอบคุณ ภาพจาก INNNEWS