รายละเอียด : นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า แนวทางเสนอโครงการภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ วงเงิน 4 แสนล้านบาทจาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 มุ่งหวังให้มีเม็ดเงินลงระบบเศรษฐกิจช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท 3 เดือนจะหมดลงในเดือน มิ.ย.นี้
ขณะที่วงเงินงบประมาณปี 2564 จะเริ่มเบิกจ่ายได้วันที่ 1 ต.ค.จึงต้องมีเงินลงไปให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงนี้ เช่น การมุ่งไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ และการเกษตรที่ใช้นวัตกรรมเพิ่มคุณภาพการผลิต โดยโครงการที่เสนอเข้ามาคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการฯ จะดูความพร้อมของโครงการที่เบิกจ่ายและทำโครงการเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ และดูการจ้างงานในชุมชนท้องถิ่นในส่วนโครงการโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน
สำหรับการฟื้นเศรษฐกิจในประเทศหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิด สศช. มองว่าจะได้ผลเร็วที่สุด คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศเนื่องจากเครื่องยนต์เศรษฐกิจต่างๆดับเกือบหมด โดยในเดือน ก.ค.ซึ่งจะเริ่มมีการปลดล็อกให้มีการท่องเที่ยวในประเทศได้ มาตรการที่ภาครัฐจะออกมาเพื่อช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศโดยอาจให้มีมาตรการลดค่าที่พักให้กับคนที่เดินทางท่องเที่ยว 40 - 50% โดยส่วนที่ลดให้ภาครัฐจะสนับสนุนเงินให้ในรูปแบบคูปอง
โดยใช้ข้อมูลจากฐานภาษีมาเป็นส่วนลดให้เหมือนกับมาตรการไทยเที่ยวไทยที่เคยทำมาแล้วในส่วนนี้ ส่วนมาตรการกระตุ้นการบริโภคอื่นๆเช่นมาตรการช็อปช่วยชาติหรือมาตรการชิมช็อปใช้ ที่ภาคเอกชนมีการเสนอมาจะต้องมาพิจารณาดูความเหมาะสมของโครงการอีกครั้ง
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จะมีแนวทางเกี่ยวกับฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลายมาตรการ อาทิ การสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อทำโปรโมชั่นลดราคากระตุ้นให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางในประเทศ เช่น การแจกคูปองท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการอื่นๆ ซึ่งจะจัดทำออกมาเป็นแพ็คเกจใหญ่ฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในปีนี้
หลังจากเมื่อ วานนี้ (25 พ.ค.) กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกันเปิดตัวโครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA โดยตราสัญลักษณ์มีอายุประมาณ 2 ปี ล่าสุดมียอดผู้ประกอบการท่องเที่ยวสมัครรับการตรวจสอบเพื่อรับตราสัญลักษณ์ SHA จำนวน 1,442 ราย หลังจากเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา